เตรียมความพร้อมบริหารจัดการ ก่อนเปิดร้านขายยา
- Decco develop
- 8 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา

ในช่วงนี้ที่คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ร้านขายยาจึงกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความต้องการสูงและมั่นคง แต่การเปิดร้านขายยาไม่ได้มีแค่เรื่องหาเงินลงทุนกับหาทำเลดีๆ เท่านั้นนะ เเต่ยังต้องรู้เรื่องกฎหมาย การบริหารร้าน และการทำการตลาดด้วย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้แบบมืออาชีพและเติบโตได้ระยะยาว
เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นเปิดร้านขายยา

การเปิดร้านขายยาต้องวางแผนให้รอบด้าน ทั้งเรื่องกฎหมาย ทำเล ไปจนถึงทักษะบริหาร ถ้าคุณกำลังคิดจะเปิดร้านหรือกำลังตัดสินใจ บทความนี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างเป็นระบบและมั่นใจมากขึ้น
วางแผนธุรกิจเปิดร้านขายยาให้ชัดเจน
วิเคราะห์ตลาด สำรวจพื้นที่รอบๆ ว่ามีร้านขายยาอยู่แล้วกี่ร้าน คนแถวนั้นมีความต้องการแบบไหน คู่แข่งมีจุดเด่นหรือจุดอ่อนอะไร
กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เช่น คนในชุมชน คนไข้จากคลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้ๆ กลุ่มรักสุขภาพที่ชอบใช้สมุนไพรและอาหารเสริม แบบนี้จะช่วยให้วางแผนร้านได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
คำนวณต้นทุน ทั้งค่าปรับปรุงร้าน ค่าเช่าที่ อุปกรณ์ต่างๆ ค่าจ้างพนักงาน ค่าใช้จ่ายรายเดือน และทุนหมุนเวียนสำหรับซื้อยาและเวชภัณฑ์
ทำเลที่เหมาะสมก่อนเปิดร้านขายยา
ทำเลที่เหมาะสม ต้องใกล้โรงพยาบาล คลินิก หรือชุมชนใหญ่ เช่น หน้าปากซอยหรือริมถนนที่คนผ่านเยอะ มีที่จอดรถหรือใกล้รถสาธารณะ
ทำเลที่ควรหลีกเลี่ยง คือ ซอยเปลี่ยว คนเดินน้อย หรือใกล้ร้านขายยาเจ้าใหญ่ ควรเลือกพื้นที่ที่ระบายอากาศดี มีมุมให้เภสัชกรให้คำปรึกษาลูกค้าแบบส่วนตัวได้
การจัดการสินค้าและคลังยาก่อนเปิดร้านขายยา

ยาและเวชภัณฑ์ต้องดูแลเรื่องอุณหภูมิ วันหมดอายุ และกฎหมายที่เข้มงวด การจัดการคลังยาจึงต้องรัดกุมตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน เพื่อให้บริการลูกค้าได้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การวางระบบคลังสินค้าให้ชัดเจน
แบ่งหมวดหมู่สินค้า ยาตามใบสั่งแพทย์ (Rx), ยาสามัญ (OTC), เวชภัณฑ์ (ผ้าก๊อซ สำลี), อาหารเสริม วิตามิน สมุนไพร และสินค้าทางเลือก เช่น หน้ากาก เจลล้างมือ เครื่องวัดความดัน
การสั่งซื้อของ กำหนดรอบสั่งของให้ชัด จะสั่งรายสัปดาห์หรือรายเดือนก็ได้ พร้อมวิเคราะห์ว่าสินค้าไหนขายดีหรือค้างสต็อก ติดต่อซัพพลายเออร์เพื่อขอราคาดีๆ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรได้
ซัพพลายเออร์ จดรายชื่อซัพพลายเออร์ไว้เสมอ พร้อมเช็กราคาและโปรให้คุ้มที่สุด อย่าลืมเก็บเบอร์ฉุกเฉินเผื่อสั่งยาเร่งด่วน จะได้ไม่พลาดเวลาของขาดหน้าร้าน
พื้นที่จัดเก็บยา จัดให้เป็นระเบียบ แยกตู้ตามประเภท พร้อมมีตู้เย็นเฉพาะสำหรับยาที่ต้องแช่เย็นวางของให้มองเห็นชัดๆ จะได้หยิบง่ายและช่วยรู้วันหมดอายุของยา
จัดการสต็อกอย่างมืออาชีพ
โปรแกรมสต็อก ที่ออกแบบมาสำหรับร้านยาโดยเฉพาะ เช่น Pharmacy One, POSPOS หรือ WJ POS ช่วยเช็กสต็อก คำนวณยอดขาย และจัดการร้านได้ง่ายขึ้น
เลือกระบบ ที่บันทึกได้ทั้งชื่อยา เลขทะเบียน วันหมดอายุ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อของใกล้หมดหรือใกล้หมดอายุ และเก็บประวัติลูกค้าได้ด้วย เวลามาซื้อซ้ำจะได้บริการรวดเร็วและแม่นยำ
จัดระบบ FEFO หรือ “ยาหมดอายุก่อน ขายก่อน” ให้เป็นเรื่องง่ายโดยเรียงยาตามวันหมดอายุ และตรวจสต็อกพร้อมจัดเรียงใหม่ทุกเดือน จะช่วยลดของเสียได้เยอะเลย
ข้อควรรู้ เริ่มต้นเปิดร้านไม่ต้องสต็อกเยอะ แต่ควรมีสินค้าหลากหลายพอสมควรแล้วค่อยปรับเพิ่มหรือลดตามยอดขายจริง จะช่วยประหยัดทุนและไม่ต้องกังวลของค้างเก่าเกินไป
บริหารทีมและการบริการลูกค้าก่อนเปิดร้านขายยา

ก่อนเปิดร้านขายยาต้องวางระบบทีมและสร้างวัฒนธรรมการบริการให้ดี ไม่ใช่แค่จ้างคนมานั่งเฝ้าร้าน แต่คือการสร้างร้านที่ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการซ้ำๆ นั่นเอง
วางโครงสร้างทีมงานอย่างเหมาะสม
เภสัชกร คอยให้คำแนะนำเรื่องยาและดูแลสุขภาพตามที่เรียนมา และต้องอยู่ประจำร้านตลอดเวลาที่เปิดด้วยนะ
ผู้ช่วยเภสัชกรหรือพนักงานขาย จะช่วยจัดของ ต้อนรับลูกค้าและรับเงินผ่านระบบ POS ให้ร้านดำเนินได้อย่างราบรื่น
ผู้ดูแลสต็อกหรือคลัง (สำหรับร้านขนาดกลาง-ใหญ่) จะช่วยดูแลยา เวชภัณฑ์ และคอยเช็กวันหมดอายุให้เรียบร้อย ไม่ให้ของเสียเปล่า
เตรียมความพร้อมก่อนเริ่มจ้าง
กำหนดหน้าที่ ให้ชัดเจนของแต่ละตำแหน่งไปเลย แล้วจัดตารางเข้าเวรกับวันหยุดให้ลงตัว จะได้ทำงานกันง่ายมากขึ้น
ระบบบริการ กำหนดวิธีพูดคุยให้สุภาพและเข้าใจง่าย เภสัชกรควรมีมุมให้คำปรึกษาชัดเจน แล้วก็ฝึกทีมให้ฟังลูกค้าอย่างใจเย็น ไม่รีบเร่ง จะได้ประทับใจลูกค้าด้วย
บริการเสริม เช่น ให้คำแนะนำฟรี แจ้งเตือนเวลาสินค้ามาถึงจัดยาแยกเป็นกล่องหรือชุดให้สะดวก และใช้ LINE OA ตอบคำถามเร่งด่วน ให้ลูกค้ารู้สึกใส่ใจมากขึ้น
สร้างวัฒนธรรม เช่น ดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว จัดประชุมสั้นๆ ทุกสัปดาห์ เพื่อแชร์ปัญหา วิธีแก้ และให้คำชมพร้อมฟีดแบ็ค จะช่วยให้ทีมแข็งแรงและอบอุ่น
คัดเลือกทีม ที่มีใจรักงานบริการ สุภาพ ใจเย็น และพร้อมเรียนรู้เรื่องยาจากนั้นอบรมเรื่องขั้นตอนการบริการลูกค้า วิธีใช้ POS การจัดยา ระบบ FEFO และการตอบคำถามเบื้องต้น
การสร้างแบรนด์และการตลาดก่อนเปิดร้านขายยา

การเปิดร้านขายยาต้องเข้าใจตลาดและพฤติกรรมลูกค้าให้ลึก เพื่อวางกลยุทธ์ที่ทำให้ร้านคุณไม่เงียบเหงาและมีลูกค้าประจำตั้งแต่เดือนแรก
ตั้งชื่อร้านและออกแบบแบรนด์ให้จำง่าย
ตั้งชื่อร้าน ให้สั้น กระชับ เช่น “ยาใจดี”, “Dr. Care”, หรือ “Health+” จะจำง่ายกว่า เลี่ยงคำศัพท์ยากๆ ที่คนทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจ
โลโก้ ควรออกแบบให้เรียบง่าย ใช้สีสบายตาอย่างฟ้า เขียว หรือขาว จะช่วยให้ร้านดูน่าเชื่อถือและดูเข้าถึงง่ายมากขึ้น
สโลแกน ลองใช้สโลแกนที่สร้างความเชื่อใจ เช่น “ร้านยาดูแลด้วยใจ…เหมือนคนในครอบครัว” แบบนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่นและมั่นใจในร้านมากขึ้น
ออกแบบร้าน ให้โปร่ง โล่ง สะอาด ใช้แสงสว่างพอดีๆ แล้วแบ่งโซนชัดเจน เช่น โซนยาตามใบสั่ง ยาสามัญ อาหารเสริม และอุปกรณ์การแพทย์ จะช่วยให้ลูกค้าหาของง่ายขึ้น
ใช้การตลาดออนไลน์และสร้างการรับรู้
ช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook Page สำหรับบอกข้อมูลร้าน เวลาเปิด-ปิด และรีวิว, Instagram โชว์สินค้าใหม่และบรรยากาศร้าน และ LINE OA ที่ใช้ส่งข่าว โปรโมชั่น รวมถึงตอบคำถามลูกค้าได้
โพสต์เนื้อหา ที่น่าสนใจ เช่น ความรู้สุขภาพ โปรโมชั่นประจำเดือน หรือเภสัชกรแนะนำยา เเละโพสต์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้ลูกค้ารู้ว่าร้านมีตัวตนและน่าเชื่อถือมากขึ้น
ร่วมมือกับชุมชน ลองจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาฟรี เช่น ที่โรงเรียน วัด หรือชมรมผู้สูงอายุ แจกหน้ากากหรือยาพื้นฐาน แบบนี้คนในพื้นที่จะรู้จักและไว้ใจร้าน มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นแน่นอน
สรุป
ก่อนเปิดร้านยา ลองเริ่มจากวางแผนธุรกิจและเลือกทำเลที่ใช่ให้ดีนะ จากนั้นก็จัดการเรื่องสต็อกกับทีมงานให้เป็นมืออาชีพหน่อย จะได้เปิดร้านได้ราบรื่นอย่าลืมสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำ ใช้การตลาดออนไลน์ช่วยเสริม แล้วก็ใส่ใจบริการลูกค้าเต็มที่ สุดท้าย ลองจับมือกับชุมชนรอบๆ ร้าน ช่วยกันสร้างความไว้วางใจ ลูกค้าจะตามมาเอง
Comments