งบเท่าไหร่ถึงเปิดร้านขายยาได้? สรุปค่าค่าใช้จ่ายจริงก่อนเริ่มลงทุน
- Decco develop
- 2 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 18 ส.ค.

การเปิดร้านขายยาเรื่องงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนสงสัยว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ ต้องซื้ออะไรบ้างและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอะไรซ่อนอยู่บ้าง บทความนี้จะพาไปดูภาพรวมงบประมาณสำหรับการวางแผนเปิดร้าน เพื่อให้เริ่มธุรกิจได้อย่างราบรื่นและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน
เปิดร้านขายยาต้องใช้งบค่าตกแต่งร้านและอุปกรณ์เท่าไหร่?

หากกำลังวางแผนเปิดร้านขายยา งบค่าตกแต่งร้านและอุปกรณ์ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องเตรียมไว้ เพราะช่วยให้ร้านดูดีและผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย บทความนี้จะพาไปรู้จักรายละเอียดของงบส่วนนี้กัน
งบค่าตกแต่งร้านขายยา
งบค่าตกแต่งร้านขายยาเนี่ย ต้องวางแผนดีๆนะ เพราะนอกจากจะทำให้ร้านดูน่าเชื่อถือแล้ว ยังต้องออกแบบให้เก็บยาได้ดี ใช้งานสะดวกด้วย โดยทั่วไปร้านเล็กถึงกลางจะใช้งบประมาณประมาณ 30,000–100,000 บาท ซึ่งก็รวมทั้งระบบไฟ ชั้นวางยา ตู้เย็นเก็บยา แล้วก็พื้นที่ให้เภสัชกรให้คำปรึกษาลูกค้าไปด้วยเลย
งบซื้ออุปกรณ์ร้านขายยา
ส่วนงบซื้ออุปกรณ์ร้านขายยา นอกจากชั้นวางยาและตู้เย็นแล้ว ยังต้องมีเครื่องชั่งยา คอมพิวเตอร์สำหรับ ระบบขาย ป้ายร้าน แล้วก็อุปกรณ์ทำความสะอาดกับอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ด้วยนะ ส่วนงบประมาณส่วนนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 20,000 – 50,000 บาท ขึ้นกับว่าอยากได้ครบมากแค่ไหนและคุณภาพอุปกรณ์เป็นยังไง
เปิดร้านขายยาต้องซื้อยากับเวชภัณฑ์เริ่มต้นเท่าไหร่ดี?

เมื่อเปิดร้านขายยาสิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมสต็อกยาและเวชภัณฑ์ให้พร้อมเพื่อรองรับลูกค้า โดยจำนวนและมูลค่าการลงทุนจะขึ้นอยู่กับขนาดร้านและกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ
งบประมาณสำหรับสต็อกเริ่มต้น
ถ้าเป็นร้านขายยาเล็กๆ ที่เน้นขายยาทั่วไปและเวชภัณฑ์พื้นฐาน ควรเตรียมงบสต็อกสินค้าครั้งแรกประมาณ 100,000 – 300,000 บาทเลยนะ แต่ถ้าร้านใหญ่ขึ้นหรืออยากมีสินค้าหลากหลาย ก็ต้องเผื่องบเพิ่มตามจำนวนสินค้าและความต้องการของลูกค้าด้วย
ประเภทสินค้าในสต็อก
ส่วนประเภทสินค้าที่ควรมีในสต็อก ก็อย่างยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ รวมถึงพวกพลาสเตอร์ น้ำเกลือ ผ้าพันแผล และสินค้าสุขภาพอื่นๆ ด้วย จะได้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบ แถมช่วยให้ร้านดูน่าสนใจและขายดีขึ้นด้วย
จ้างเภสัชมาประจำร้านขายยา ต้องเตรียมงบเท่าไหร่?

ถ้าคุณไม่ใช่เภสัชกร แต่ต้องการเปิดร้านขายยา ก็ต้องจ้างเภสัชกรประจำร้านเพื่อให้ถูกกฎหมายและมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง
งบประมาณค่าจ้างเภสัชกร
เรื่องค่าจ้างเภสัชกรโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นกับประสบการณ์และทำเลร้านด้วย ถ้าเป็นร้านในเมืองใหญ่หรือทำเลดีหน่อย ค่าแรงก็อาจจะสูงขึ้นนิดหน่อย
ข้อตกลงและสัญญาการจ้างงาน
แนะนำว่าก่อนจ้างเภสัชกร ควรทำสัญญาจ้างงานให้ชัดเจนเลยนะ ตั้งแต่เรื่องเวลาทำงาน ความรับผิดชอบและเงื่อนไขต่างๆ จะได้ช่วยกันป้องกันปัญหาในอนาคต และยังทำให้เภสัชกรรับผิดชอบงานได้เต็มที่ ทำงานอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
เปิดร้านขายยาต้องเตรียมงบขอใบอนุญาตและเอกสารเท่าไหร่?

การขอใบอนุญาตเปิดร้านขายยาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น
ค่าธรรมเนียมขอใบอนุญาตเปิดร้านขายยา
ค่าธรรมเนียมขอใบอนุญาตเปิดร้านขายยา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3,000–5,000 บาท ขึ้นกับพื้นที่และหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ โดยงบนี้ก็รวมค่าเอกสารกับค่าตรวจสอบเบื้องต้นแล้วด้วย
ค่าเอกสารและอื่นๆในการเปิดร้านขายยา
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรเผื่อไว้ เช่น ค่าถ่ายเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านหรือค่าถ่ายรูปสถานที่ ค่าใช้จ่ายพวกนี้ไม่เยอะมาก แค่เผื่อไว้สัก 1,000–2,000 บาทก็พอแล้ว
ค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้ก่อนเปิดร้านขายยา

การเปิดร้านขายยา นอกจากจะต้องเตรียมเรื่องค่าใช้จ่ายเริ่มต้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ต้องวางแผนให้ดี เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าราบรื่นและมั่นคงตลอดไป
ค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ร้านขายยาต้องเจอมีอะไรบ้าง?
ค่าเช่าร้าน นี่ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดร้านเลย ร้านเล็กในย่านชานเมืองอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าอยู่ในเมืองใหญ่หรือทำเลดีๆ ค่าเช่าก็อาจพุ่งไปถึงหลักหมื่นได้เลย
ค่าสาธารณูปโภค อย่างไฟ น้ำ อินเทอร์เน็ต รวมๆกันแล้วก็ประมาณ 2,000 – 5,000 บาทต่อเดือน ขึ้นกับขนาดร้านและการใช้งานของเรา
ค่าวัสดุสิ้นเปลือง นอกจากนี้ก็อย่าลืมเผื่องบค่าวัสดุสิ้นเปลือง เช่น ถุงพลาสติก แพ็คเกจจิ้ง หรือกระดาษใบเสร็จ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดร้านด้วยนะ
ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ ถ้ามีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็ควรเผื่องบค่าบำรุงรักษาและซ่อมบำรุงไว้ด้วย เพื่อให้ใช้งานได้ดีเวลาให้บริการลูกค้า
สรุป
การเปิดร้านขายยาเนี่ย มีหลายเรื่องให้คิดจริงๆ ทั้งค่าตกแต่งร้าน อุปกรณ์ ยาสต็อก แล้วก็ค่าจ้างเภสัชกรด้วยนะ ถ้าวางแผนดีรู้เรื่องกฎหมายและบริการลูกค้าแบบจริงใจ รับรองว่าร้านมีโอกาสเติบโตได้ไม่ยากเลย เป็นธุรกิจที่ไปได้ไกลและช่วยสร้างรายได้ระยะยาวได้แน่นอน
ความคิดเห็น